เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ทางไมโครซอฟท์เปิดตัว Nokia X2 (ในโค้ดเนม Nokia XX) ไปแบบเงียบ ๆ ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้พื้นฐานเป็น Nokia X Platform (ที่อิงมาจาก Android อีกที) ตัวสุดท้ายของบริษัท (แหงแหละครับ ของไมโครซอฟท์จะใช้ระบบของคู่แข่งทำไม)

ทางทีมงาน WindowsMove.com เองก็อยากได้มาเก็บมาเป็นคอลเลกชั่นสักเครื่อง จึงจัดการสอยตัว Nokia X2 มาด้วยเงินสด ๆ (ไม่ได้รับเครื่องอุปถัมภ์แต่อย่างใด และมูลค่าเครื่องก็ไม่ได้แพงมากถึงขนาดต้องเจียดเงินจ่ายแบบน้ำตาร่วง) โดยร้านที่ไปรับเครื่องในรอบนี้คือ Jaymart สาขา Siam Paragon ครับ (บริการดีมาก ๆ)

แกะกล่อง

แน่นอนว่าเมื่อของมาแล้วก็ต้องมาแกะกล่องกัน แน่นอนว่าดีไซน์ของกล่อง Nokia X2 นั้นยังไม่หลุดไปจากดีไซน์บนกล่อง Lumia 630 กับ Lumia 930 สักเท่าไรนัก (อ่านรีวิวของทั้ง 2 ตัวนี้ได้ครับ) โดยด้านหน้าจะชูเรื่องสีสันของตัว Nokia X2 ได้อย่างชัดเจนสุด ๆ (แค่กล่องก็สีแสบตามากครับ)

ด้านข้างซ้ายก็เขียนไว้ชัดเจนครับว่าเป็นรุ่น Nokia X2 Dual SIM (มีรุ่นเดียวทั่วโลกครับ)

ด้านหลังก็ยังคงเขียนบอกสเปกไว้เหมือนเดิมครับ

เมื่อเลื่อนเปิดกล่องเข้ามาก็จะเจอกับ Nokia X2 นอนหราบนกล่องด้านขวา ส่วนด้านซ้ายก็ยังคงใส่อุปกรณ์เสริมเช่นเคย

เปิดฝาด้านล่างก็จะเจอแบตเตอรี่ และคู่มือ รวมถึงใบปลิวต่าง ๆ ตามสูตร (มีใบหนึ่งเขียนว่าโทร Skype ฟรี 1 เดือนเต็มด้วย แต่ต้องไปแลกในแอป Skype Gift อีกที)

อีกด้านหนึ่งก็เป็นส่วนของอุปกรณ์เสริม มีหูฟังแบบเดียวกันกับ Nokia X/Asha (แต่เป็นสีดำ) และสายชาร์จแบบแยกหัว USB ไม่ได้

แกะเสร็จแล้วก็จะเป็นดังภาพครับ

ลองจับ

Nokia X2 ออกแบบมาสวยงาม (มาก) ด้วยดีไซน์ฝาหลังที่ได้มาจากตระกูล Asha Touch ซึ่งเป็นแบบ Dual Layer ตามสไตล์ของทีมออกแบบ

ด้านหน้ามีกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล ลำโพงสนทนา โลโก้ NOKIA หน้าจอ 4.3 นิ้ว และปุ่ม softkey อีก 2 ปุ่ม (ซึ่งมีหน้าที่อย่างไรเดี๋ยวจะอธิบายอีกทีในด้านซอฟท์แวร์ครับ

ด้านข้างซ้าย โล่งสนิทครับ

ด้านข้างขวา มีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มปิดเครื่อง การจัดวางคล้ายกับตระกูล Lumia อย่างมาก

ด้านหลังจะเป็นที่อยู่ของกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ไฟแฟลช LED 1 ดวง และลำโพงขนาดใหญ่พอควร

ด้านบนมีช่องต่อ microUSB และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

ด้านล่างโล่งเตียนครับ

เมื่อเปิดฝาหลังออกมา จะเจอช่องใส่แบตเตอรี่, ช่องใส่ microSD, ช่องใส่ micro SIM 1 ช่อง และที่สำคัญคือ ช่องใส่ซิมที่ 2 ซึ่งเป็นช่องใส่ซิมขนาดปกติครับ

เมื่อลองนำตัว Nokia X2 มาเทียบกับ Lumia 630 พบว่า ตัว Nokia X2 ค่อนข้างกว้างกว่า แต่เตี้ยกว่า ส่วนความบาง Lumia 630 กินขาดครับ

สเปก

- หน้าจอ 4.3 นิ้ว ความละเอียด 800 x 480 พิกเซล
- ซีพียู Qualcomm Snapdragon 200 แบบ dual-core ความเร็ว 1.2 GHz
- แรม 1 GB
- หน่วยความจำภายใน 4 GB เพิ่ม microSD ได้สูงสุด 32 GB และ OneDrive 15 GB
- กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED
- กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ 1,800 mAh


ซอฟต์แวร์

ซอฟต์แวร์ของ Nokia X2 นั้นเป็น Nokia X Platform เวอร์ชั่น 2.0 (ที่อยู่บนพื้นฐานของ Android Open Source Project เวอร์ชั่น 4.3 Jelly Bean) ที่ปรับแต่งมาพิเศษสำหรับ Nokia X2 อันประกอบด้วย หน้าจอ glance screen แบบเดียวกันกับที่อยู่บน Lumia รวมไปถึงหน้าแรกที่ออกแบบมาให้คล้ายกับ live tiles บน Windows platform

แน่นอนว่าหนึ่งในจุดเด่นของ Nokia X Platform ก็คือ Fastlane ที่รวบรวมทุกการแจ้งเตือนมาไว้ที่เดียว รวมถึงแอปที่เพิ่งเปิดใช้งานอยู่ไปไม่นาน ทำให้ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น

อีกด้านของหน้าจอแรก ก็จะเป็นรายชื่อแอปต่าง ๆ ซึ่งจัดเรียงแบบเดียวกับที่เห็นใน Windows Phone ต่างกันที่ว่า มันมีแถบค้นหาแบบแยกต่างหาก ดูเข้าใจง่ายกว่าการเป็นปุ่มบน Windows Phone เยอะ

สำหรับคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับปุ่ม softkey ทั้งหมด 2 ปุ่มเนี่ย แท้จริงมีไว้ทำไม คำตอบคือ มันออกแบบมาให้คนใช้งานได้ง่ายขึ้นครับ แต่ก่อนนั้น ใน Nokia X จะมีเพียงปุ่ม softkey เพียงแค่ปุ่มเดียว คือปุ่ม back แต่ Nokia X2 ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก โดยเพิ่มปุ่ม home เพื่อลดความสับสนให้กับผู้ใช้ และเปลี่ยนปุ่ม back เมื่อตอนกดยาว จากเดิมที่เข้าไปในหน้า home เป็นโหมด multitasking แทน

ข้อเสียหลัก ๆ ของมันคือ มันไม่มีตัว Google Applications ซึ่งเป็นหัวใจของ Android ไปซะอย่างนั้น (ก็อย่างว่า ต้องการเน้นบริการของไมโครซอฟท์) รวมถึงแอปใน Nokia Store มีไม่ค่อยเยอะเท่าไร แต่ข่าวดีคือ ยังมีสโตร์ภายนอกอย่างเช่น 1Mobile Market ให้บริการอยู่ครับ

ด้านซอฟท์แวร์ที่เปลี่ยนไปจากเดิมคือ Nokia X2 จะใช้ Opera mini แทนตัว Nokia Xpress browser (ซึ่งที่จริงใส้ในก็คือเทคโนโลยีเดียวกัน) การเปลี่ยนไปใช้เป็น Opera mini ถือว่าเป็นหนึ่งในจุดที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดในตระกูล Nokia X เพราะว่าแต่ก่อนจะใช้เบราเซอร์ของตัวเองในระบบ

ด้านคีย์บอร์ด ภาษาไทยจะเป็นแบบ 4 แถว ส่วนภาษาอังกฤษจะเป็นแบบ 3 แถวตามปกติ

ประสิทธิภาพ

จากการลองใช้งาน Nokia X2 พบว่าตัวระบบทำงานได้เสถียรมาก ไม่ค่อยมีอาการกระตุกโผล่มาให้เห็น แต่อย่างไรก็ดี เวลาปรับแต่งหน้าแรก (ซึ่งเป็นส่วนของ live tiles และ widget) ยังคงมีการกระตุกโผล่มาให้เห็นอยู่ครับ

ด้านคะแนน benchmark ทางทีมงานได้ใช้แอป AnTuTu X สำหรับการทดสอบ ได้คะแนนมาค่อนข้างประทับใจอยู่ แต่ยังไม่ค่อยดีมาก

กล้อง

Nokia X2 มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซลแบบ auto-focus และแฟลช LED 1 ดวง โดยคุณภาพของภาพที่ได้ออกมาค่อนข้างดีพอสมควร

ด้านซอฟต์แวร์ของกล้องนั้น ปรับไม่ค่อยเยอะสักเท่าไร มีอยู่ 3 โหมดหลัก ๆ คือโหมดภาพ, โหมดวิดีโอ และโหมดพาโรนาม่า ไม่มีโหมดรัวช็อตต่าง ๆ แบบบน Lumia แน่นอนครับ

คุณภาพของวิดีโอถือว่าพอใช้ ไม่มีอะไรเลิศเลอเท่าไรนัก

Wrap-up

Nokia X2 ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟน Android ที่ดีมาก ๆ 1 ตัว แต่ด้วยข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างที่ทำให้มันยังไม่ค่อยดีเท่าไรนักเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟน Android ในระดับราคาเดียวกัน (เช่น ZenFone ที่มีข้อได้เปรียบทั้งแอปพลิเคชัน, ระบบนิเวศ ฯลฯ)

อย่างไรก็ดี Nokia X2 ถือเป็นตัวขัดตาทัพที่ทำหน้าที่ได้ค่อนข้างดี แม้จะไม่ค่อยสมบูรณ์แบบ 100% เท่าไรนัก

WindowsMove Review Score

ข้อดี

1. วัสดุดีสมชื่อ
2. ระบบลื่นใช้ได้
3. กล้องหลังที่ทำได้ค่อนข้างดี
4. หลาย ๆ อย่างปรับปรุงในทางที่ดีขึ้น


ข้อเสีย

1. ยังไม่ค่อยคุ้มราคาเท่าไรเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพและระบบนิเวศที่ได้รับ
2. แม้กล้องจะค่อนข้างดี แต่ยังไม่ถึงที่สุด
3. หน้าจัดการ widget ยังทำได้แย่ และกระตุกเช่นเคย


Nokia X2 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 4,690 บาทครับ